ไขข้อสงสัย! Cleanser กับ Cleansing ต่างกันยังไง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่หลาย ๆ คนได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ แต่อาจจะมีข้อสงสัย หรือจำสลับกันบ้างว่า ว่าแต่ละตัวเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร ใช้ล้างหน้าเหมือนกันหรือไม่ วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยเหล่านั้น พร้อมวิธีการใช้อย่างถูกต้อง รวมถึงใช้แบบไหนดีกว่ากัน
Cleanser กับ Cleansing ต่างกันยังไง?
เพื่อทำความเข้าใจความแตกต่างของ Cleanser กับ Cleansing ว่าจริง ๆ แล้วต่างกันมากน้อยแค่ไหนหาคำตอบไปพร้อมกัน
Cleanser (คลีนเซอร์) คืออะไร?

Cleanser (คลีนเซอร์) คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ใช้คู่กับน้ำสะอาด โดยที่เรารู้จักกันดีอย่าง สบู่ล้างหน้า โฟมล้างหน้า หรือเจลล้างหน้า ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรก ความมันต่าง ๆ ที่อยู่บนใบหน้าออกไปจากผิวหน้า รวมถึงทำความสะอาดคลีนซิ่งที่เราใช้เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางด้วย
Cleanser (คลีนเซอร์) มีแบบไหนบ้าง ?
Cleanser (คลีนเซอร์) ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดผิวหน้าแบบล้ำลึก เน้นความอ่อนโยนต่อผิวหน้า แล้วคลีนเซอร์มีแบบไหนบ้าง และเนื้อสัมผัสแต่ละแบบเป็นอย่างไร เหมาะกับสภาพผิวแบบไหน ที่จะช่วยทำความสะอาด ขจัดสิ่งสกปรกออก คราบมันต่าง ๆ บนใบหน้า ออกได้อย่างหมดจด
- คลีนเซอร์แบบเจล
เป็นคลีนเซอร์เนื้อสัมผัสแบบเจลใส เหมาะกับทุกสภาพผิว เพราะมีความอ่อนโยน ไม่มีสี ไม่ทำร้ายผิว รวมถึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เพราะคลีนเซอร์แบบเจลจะไม่ทำให้ผิวระคายเคือง และช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ไม่ทำให้ผิวสูญเสียน้ำออกไป - คลีนเซอร์แบบโฟม
เป็นคลีนเซอร์ที่เหมาะกับผู้ที่มีผิวมัน หรือผิวผสม เพราะมีส่วนผสมของสารที่ช่วยลดแรงตึงผิว ทำให้ผิวหน้าสูญเสียน้ำมันธรรมชาติ และความชุ่มชื้นบนผิวลดน้อยลง ช่วยลดน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า และช่วยลดการอุดตันของน้ำมันที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้อย่างดี - คลีนเซอร์แบบครีม
เป็นคลีนเซอร์ที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ จึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง ขาดน้ำ เพราะคลีนเซอร์แบบครีมจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้า ไม่ทำให้หน้าแห้งตึง และไม่ทำให้ผิวเกิดการเสียดสีกับฝ่ามือเวลาทำการถูหน้ามากเกินไป
Cleansing (คลีนซิ่ง) คืออะไร?

Cleansing (คลีนซิ่ง) คือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า หรือเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า เช็ดเครื่องสำอาง คราวมัน สิ่งสกปรกต่าง ๆ บนใบหน้าให้ออกไป หากเป็นคนที่แต่งหน้า หรือแค่ทาครีมกันแดด ก็ควรที่จะใช้คลีนซิ่งเช็ดทำความสะอาดเพื่อไม่ให้รูขุมขนอุดตัน ก่อนจะไปล้างทำความสะอาดด้วยคลีนเซอร์ในขั้นตอนต่อไป
หากจะพูดให้เข้าใจง่ายขึ้น Cleansing (คลีนซิ่ง) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นตัวแรกในขั้นตอนของการทำความสะอาดผิวหน้า โดยใช้เช็ดทำความสะอาดในขณะหน้าแห้ง ช่วยขจัดคราบสกปรก และเครื่องสำอาง มีทั้งเนื้อครีม เนื้อเจล เนื้อออยล์ ส่วน Cleanser (คลีนเซอร์) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นตัวสุดท้ายในขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้า โดยใช้ในขณะที่หน้าเปียก ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าแบบล้ำลึก ให้ผิวหน้าสะอาดหมดจด โดยมีทั้งเนื้อเจล หรือแบบไม่มีฟองเพื่อความอ่อนโยนต่อผิวหน้า
Cleansing (คลีนซิ่ง) มีแบบไหนบ้าง?
Cleansing (คลีนซิ่ง) ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดผิวหน้า ขจัดคราบสกปรก โดยเฉพาะเครื่องสำอาง เพราะสภาพผิวของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน จึงต้องการการดูแลที่ไม่มีเหมือนกัน การเลือกคลีนซิ่งให้เหมาะกับผิวจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยคลีนซิ่งมีหลากหลายแบบดังนี้
- คลีนซิ่งวอเตอร์ หรือ คลีนซิ่งน้ำ
เป็นคลีนซิ่งที่เหมาะกับทุกสภาพผิว มีลักษณะที่เป็นของเหลวใส ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ช่วยในการขจัดคราบความมันส่วนเกินได้เป็นอย่างดี และต้องใช้คู่กับสำลีในการเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า - คลีนซิ่งน้ำนม
เป็นคลีนซิ่งที่เหมาะกับผู้ที่มีผิวมัน มีเนื้อที่บางเบา มีลักษณะเป็นเนื้อคล้ายน้ำนม สีขาวขุ่น ไม่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม และควรใช้คู่กับสำลีในการเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า - คลีนซิ่งออยล์
เป็นคลีนซิ่งที่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง เพราะมีน้ำมันและน้ำอยู่ในส่วนผสม ช่วยในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว อ่อนโยนต่อผู้ที่มีผิวแห้ง แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวมันหรือกำลังเป็นสิว เพราะจะทำให้เกิดความมันและเกิดสิวเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม โดยสามารถใช้กับฝ่ามือ ถูทำความสะอาดหน้าได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องใช้คู่กับสำลี - คลีนซิ่งเจล
เป็นคลีนซิ่งที่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เพราะมีลักษณะเป็นเนื้อเจลใส หรืออาจจะมีเป็นเนื้อเจลขุ่น ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหรือไม่ทำให้ผิวระคายเคือง แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการทำความสะอาดค่อนข้างนานเพราะเนื้อมีความบางเบามาก - คลีนซิ่งครีม
เป็นคลีนซิ่งเหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง โดยมีลักษณะคล้ายกับเนื้อครีมบำรุงผิว ใช้ทำความสะอาดคู่กับสำลี โดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ลดการเสียดสีกับผิวหน้า - คลีนซิ่งบาล์ม
เป็นคลีนซิ่งที่เนื้อบาล์มที่เมื่อสัมผัสลงบนผิวหน้า เนื้อสัมผัสจะค่อย ๆ อ่อนนุ่มลง ไม่จำเป็นต้องใช้สำลีในการเช็ด สามารถใช้ฝ่ามือนวดลงบนใบหน้าได้เลย เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือระคายเคืองง่าย - คลีนซิ่งแผ่น
เป็นคลีนซิ่งที่เน้นใช้งานง่าย ใช้งานสะดวก เหมาะกับการพกพา เพราะเป็นคลีนซิ่งที่ลักษณะเป็นแผ่นสำลีหรือผ้าฝ้ายที่มีคลีนซิ่งน้ำอยู่ภายในทำให้สามารถใช้เช็คทำความสะอาดผิวได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
จำเป็นต้องใช้ทั้งคลีนซิ่งและคลีนเซอร์ไหม?
หากอยากทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดหมดจด หรือที่เรียกว่า Double Cleasing ควรใช้ทั้ง Cleansing (คลีนซิ่ง) และ Cleanser (คลีนเซอร์) เพราะเป็นการทำความสะอาดแบบ 2 ขั้นตอน โดยเช็ดทำความสะอาดคราบสิ่งสกปรกด้วยคลีนซิ่ง และล้างหน้าทำความสะอาดด้วยคลีนเซอร์ เช่นพวก เจลล้างหน้า หรือโฟมล้างหน้า ก็จะช่วยทำให้ใบหน้าสะอาด ลดการเกิดสิวอุดตัน รวมถึงลดความหมองคล้ำ เพิ่มความกระจ่างใสให้ใบหน้าได้อีกด้วย
ใช้คลีนซิ่งก่อนหรือคลีนเซอร์ก่อนถึงจะดีที่สุด

หลายคนคงสงสัยว่าควรใช้คลีนซิ่งก่อนหรือคลีนเซอร์ก่อนถึงจะดีที่สุด คำตอบคือใช้คลีนซิ่งก่อนเป็นขั้นตอนแรกของการทำความสะอาดผิวหน้า โดยใช้ในขณะที่หน้ายังแห้งอยู่ โดยการเทผลิตภัณฑ์คลีนซิ่งลงบนสำลี หรือลงบนฝ่ามือและทำการเช็ดถู ทำความสะอาดสิ่งสกปรก คราบมัน คราบเครื่องสำอาง ครีมกันแดด ต่าง ๆ หลังจากนั้นจึงล้างด้วยน้ำสะอาด แล้วทำการล้างด้วยคลีนเซอร์ในลำดับถัดไป
โดยคลีนเซอร์ควรใช้ในขณะที่หน้าเปียก หรือหลังจากที่ล้างเช็ดสิ่งสกปรก หรือเช็ดเครื่องสำอางด้วยคลีนซิ่งแล้วล้างด้วยน้ำสะอาด หลังจากนั้นจึงล้างด้วยคลีนเซอร์ เพื่อทำความสะอาดอย่างล้ำลึก เพื่อให้สิ่งสกปรกออกให้หมดจด แล้วหลังจากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง แต่ถ้าหากใครที่ไม่ได้แต่งหน้าสามารถล้างทำความสะอาดด้วยคลีนเซอร์ได้เลย แต่ต้องชโลมน้ำให้ผิวหน้าเปียกก่อน
คลีนซิ่ง vs คลีนเซอร์ เลือกยังไงให้ตอบโจทย์ผิว
การเลือกคลีนซิ่งและคลีนเซอร์ให้ตอบโจทย์กับผิว เป็นวิธีดูแลผิวที่ช่วยลดการเกิดสิวได้ โดยสามารถเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของเรา โดยมีสูตรที่เหมาะแต่ละสภาพผิว ดังนี้
1. คลีนซิ่งที่เหมาะกับแต่ละสภาพผิว
- คลีนซิ่ง ไมเซล่า วอเตอร์ ที่เหมาะกับทุกสภาพผิว ถึงแม้จะมีผิวที่แพ้ง่าย เนื่องจากมีค่าความเป็นกรดด่าง (pH) ที่ 5.5 ใกล้เคียงกับผิว จึงทำให้มีความอ่อนโยน
- คลีนซิ่ง ไมเซล่า วอเตอร์ สำหรับผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย ผิวมัน และผิวผสม ที่มีส่วนผสมของ คอปเปอร์ซัลเฟต และ ซิงค์กลูโคเนต ที่ช่วยลดความมันส่วนเกิน และช่วยลดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว
- คลีนซิ่ง ไมเซล่า วอเตอร์ สำหรับผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ผิวแพ้ง่าย โดยมีส่วนผสมของ ไนอาซีนาไมด์ ที่ช่วยลดการระเหยของน้ำออกจากผิว ช่วยส่งเสริมผิวให้สามารถกักเก็บน้ำได้มากขึ้น
2. คลีนเซอร์ที่เหมาะกับแต่ละสภาพผิว
การเลือกคลีนเซอร์ให้เหมาะสมกับผิวก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นอีกขั้นตอนที่สามารถช่วยลดการเกิดสิวได้หากเลือกใช้ที่เหมาะสมกับผิว โดยมีสูตรที่เหมาะแต่ละสภาพผิว ดังนี้
- สูตรเจลล้างหน้าที่ปราศจากแอลกอฮอล์ พาราเบน และน้ำหอม มีค่า pH 5.5 ใกล้เคียงกับผิว จึงมีความอ่อนโยน ไม่ทำให้หน้าแห้งตึง พร้อมช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
- สูตรเจลล้างหน้าที่ช่วยลดความมัน ลดการเกิดสิว และลดการสะสมของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว และยังมีค่า pH 5.5 ที่ใกล้เคียงกับผิว มีความอ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
ส่วนผสมที่ไม่ควรมีใน Cleanser กับ Cleansing สังเกตไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย

หากเลือกซื้อ Cleanser กับ Cleansing ควรต้องคำนึกถึงความปลอดภัยต่อผิว ใช้แล้วไม่เป็นอันตรายต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดสิว หรือการระคายเคือง โดยควรปราศจากส่วนผสมต่อไปนี้
- แอลกอฮอล์ (Alcohol)
- น้ำหอม (Perfume)
- สีสังเคราะห์ (Synthetic Color)
- โซเดียมลอริลซัลเฟต (SLS)
- โซเดียมลอริลอีเทอร์ซัลเฟต (SLES)
- พาราเบน หรือ สารกันเสีย (Paraben)
คำถามที่พบบ่อย
Cleanser กับ Cleansing จำเป็นไหมคะ?
คลีนเซอร์ และ คลีนซิ่ง จำเป็นอย่างมากต่อการทำความสะอาดผิวหน้า เนื่องจากสภาพแวดล้อมของไทยทั้งอากาศร้อน มลภาวะ ฝุ่นควันต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวในชีวิตประจำวัน การล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ การขจัดคราบมัน หรือเครื่องสำอางจำเป็นต้องใช้คลีนซิ่ง และ คลีนเซอร์เข้ามาช่วย
Cleanser กับ Cleansing ใช้ก่อนล้างหน้า หรือ ใช้หลังล้างหน้าดีคะ?
คลีนเซอร์ และ คลีนซิ่ง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดผิวหน้าทั้งคู่ โดยที่ คลีนซิ่ง ใช้เป็นขั้นตอนแรกในการเช็ดทำความสะอาดหน้าตอนที่หน้าแห้ง และหลังถัดมาจึงใช้ คลีนเซอร์ ในการทำความสะอาดหน้าในขณะที่หน้าเปียก เพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกให้หมดจด
หากไม่ได้แต่งหน้าต้องใช้ Cleansing ไหมครับ?
การใช้คลีนซิ่งสามารถได้ทุกเวลา หากไม่แต่งหน้าก็สามารถใช้ได้ เพราะเป็นตัวช่วยในการทำความสะอาดผิวหน้า หากต้องการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก ล้างหน้าหลายขั้นตอน ก็สามารถที่จะใช้คลีนซิ่งในการทำความสะอาดได้ในทุกเวลา
Cleanser ใช้วันละกี่ครั้ง?
คลีนเซอร์ เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ช่วยมาทำความสะอาดอย่างล้ำลึก ขจัดสิ่งสกปรก โดยเฉพาะคราบมันได้ดีกว่าล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดเพียงอย่างเดียว เพราะฉะนั้นสามารถใช้คลีนเซอร์ได้ทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เช้ากับเย็น โดยสามารถเลือกคลีนเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของผู้ใช้งานได้เลย
สรุป
คลีนเซอร์ และ คลีนซิ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดผิวหน้าเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ คลีนซิ่งใช้เป็นขั้นตอนแรกของการทำความสะอาดผิวหน้าในขณะที่หน้าแห้ง และคลีนเซอร์จะเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทำความสะอาดผิวหน้า โดยใช้ในขณะที่หน้าเปียกโดย คลีนเซอร์ และ คลีนซิ่งนั้นมีหลากหลายแบบ หลากหลายเนื้อสัมผัสให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละสภาพผิว โดยสามารถใช้ควบคู่กันได้ เพื่อช่วยในการทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก ขจัดสิ่งสกปรก คราบมัน และเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด
Cleanser กับ Cleansing สองตัวนี้นับได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในขั้นตอนการทำความสะอาดไปแล้ว สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังต้องการสร้างแบรนด์Cleanser กับ Cleansing โรงงานเดอร์มาเจเนอเรชั่น มีบริการรับผลิตคลีนซิ่ง ที่ดูแลการผลิตโดยผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ยังมีทีมงานR&Dที่จะช่วยสร้างแบรนด์ให้เข้ากับกลุ่มtargetของแบรนด์คุณ ให้เราช่วยดูแลแบรนด์ โทร. 063 081 0630 หรือ Line : @559drcmg และFacebook : เดอร์มาเจเนอเรชั่น โรงงานรับผลิตครีม สกินแคร์ เครื่องสำอาง



