คอลลาเจน คำที่ทุกคนเคยได้ยินกันอย่างคุ้นหู เพราะมักถูกนำมาทำประโยชน์ในด้านการบำรุงดูแลผิวพรรณ โดยมักจะได้ยินว่าคอลลาเจนนั้นมีทั้งใน อาหาร อาหารเสริม หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ แต่ความจริงแล้วนั้นคอลลาเจนคืออะไร? ช่วยเรื่องอะไรเกี่ยวกับร่างกายได้บ้าง รวมถึงคำถามที่หลายคนมักมีข้อสงสัยว่า สามารถช่วยบำรุงผิวได้จริงไหม บทความนี้ Dermageneration จะพาไปหาคำตอบเพื่อคลายข้อสงสัยเหล่านี้กัน
ทำความรู้จัก! คอลลาเจน (Collagen) คืออะไร?

คอลลาเจน (Collagen) คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายนั้นสังเคราะห์ขึ้นเอง โดยถือเป็นโปรตีนที่มีมากที่สุดในร่างกายของมนุษย์เรา โดยมีสัดส่วนมากถึง 30% เมื่อเทียบกับจำนวนโปรตีนในร่างกายทั้งหมด โดยคอลลาเจนมีหน้าที่ในการเกาะยึดส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพิ่มความแข็งแรงให้แก่อวัยวะส่วนต่าง ๆ ทำให้ผิวหนังยืดหยุ่น คงความชุ่มชื้น คงความกระชับ เรียบเนียน และเต่งตึง อีกทั้งยังเป็นองค์ประกอบหลักของเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ทั้งร่างกาย ขน เส้นผม กระดูกก่อน กล้ามเนื้อ รวมถึงผิวหนัง
คอลลาเจน (Collagen) มีกี่ประเภท? อะไรบ้าง?
คอลลาเจนในร่างกายนั้นถือเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีมากที่สุดในร่างกาย โดยทั่วไปนั้นมักจะพบคอลลาเจนในร่างกายมากที่สุด 5 ชนิด ดังต่อไปนี้
1. คอลลาเจน (Collagen) ชนิดที่ 1 (type I)
คอลลาเจนชนิดที่ 1 เป็นชนิดที่พบมากที่สุดในร่างกาย โดยพบมากถึง 90% ของคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย โดยมีหน้าที่ในการช่วยสร้างกระดูก เอ็นยึดกล้ามเนื้อ ผิวหนัง ผนังหลอดเลือด กระจกตา ซึ่งมีความแข็งแรง และความเหนียวมากที่สุด
2. คอลลาเจน (Collagen) ชนิดที่ 2 (type II)
คอลลาเจนชนิดที่ 2 ทำหน้าที่ในการกระตุ้นให้เซลล์เกิดการสังเคราะห์ เพื่อลดอัตราการเสื่อมของกระดูกอ่อน โดยเฉพาะบริเวณข้อต่อ โดยมักพบในกระดูกอ่อน อย่าง จมูก หลอดลม ส่วนประกอบของหู รวมถึงหมอนรองกระดูก ที่ทำหน้าที่รับน้ำหนักของข้อต่อในขณะที่ร่างกายมีการเคลื่อนไหว
3. คอลลาเจน (Collagen) ชนิดที่ 3 (type III)
คอลลาเจนชนิดที่ 3 มักจะพบได้พร้อมกันกับ คอลลาเจนชนิดที่ 1 โดยมักพบในผิว ผนังหลอดเลือด กล้ามเนื้อ และในอวัยวะต่าง ๆ
4. คอลลาเจน (Collagen) ชนิดที่ 4 (type IV)
ชนิดที่ 4 มักพบในผิวหนัง ในชั้นเยื่อบุผิว และชั้นเนื้อประสานที่รองรับเนื้อผิว เป็นคอลลาเจนที่มีลักษณะเฉพาะตัว มีหน้าที่การช่วยเรื่องการทำงานของระบบประสาท และระบบเส้นเลือด
5. คอลลาเจน (Collagen) ชนิดที่ 5 (type V)
เป็นคอลลาเจนที่มักพบในชั้นผิว คล้ายกับคอลลาเจนชนิดที่ 1 อีกทั้งยังมักพบในเซลล์รากผม รกเด็ก และกระจกตา
ประโยชน์ของคอลลาเจน (Collagen) มีอะไรบ้าง?

อีกหนึ่งคำถามที่มักมีหลายคนสงสัยคือ คอลลาเจนนั้นมีประโยชน์อย่างไรบ้าง หากกินคอลลาเจนนั้นจะมีผลดีต่อร่างกายอย่างไร โดยมีหลายงานวิจัยที่บอกถึงประโยชน์ของคอลลาเจน ดังนี้
- คอลลาเจนช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ช่วยทำให้ผิวนั้นมีความยืดหยุ่น อิ่มฟู และสามารถช่วยลดความหยาบกร้านของผิวได้
- คอลลาเจนช่วยลดการเปราะบาง แตกง่ายของเล็บ
- คอลลาเจนช่วยการทำให้ริ้วรอยบนผิวที่มองเห็นได้ชัดเจนนั้นจางลง
- คอลลาเจนช่วยเรื่องข้อต่อต่าง ๆ เช่น ช่วยลดอาการปวดข้อต่อ
- คอลลาเจนช่วยชะลอการเสื่อมของมวลกระดูกได้ หากมีการทานคู่กับอาหารเสริมตัวอื่น ๆ
- คอลลาเจนช่วยในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์
- คอลลาเจนช่วยให้เลือดมีการแข็งตัว ป้องกันไม่ให้เสียเลือดมากเกินไป
- คอลลาเจนช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
- คอลลาเจนนั้นสามารถช่วยปกป้องอวัยวะภายในได้
สัญญาณอะไรบ้างที่บอกว่าคอลลาเจนในร่างกายมีปริมาณลดลง?

เมื่อมีอายุที่มากขึ้น ร่างกายมีแนวโน้มที่จะผลิตคอลลาเจนน้อยลง โดยสัญญาณที่บอกว่าคอลลาเจนในร่างกายนั้นมีปริมาณลดลง มีดังต่อไปนี้
- ผิวหนังในร่างกายนั้นมีความหย่อนคล้อย และมีริ้วรอยอย่างเห็นได้ชัด
- มีผิวหนังรอบดวงตา และมีแก้มตอบ
- ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง และกล้ามเนื้อฝ่อ
- ข้อต่อมีความฝืดแข็ง หรือมีเกิดความเสียหาย ทำให้เคลื่อนไหวได้น้อยลง
- เอ็นมีความยืดหยุ่นน้อยลง
- เกิดปัญหาเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือด
- เนื้อเยื่อบุทางเดินอาหารมีความบางลง ส่งผลต่อปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร
- มีปัญหาเกี่ยวกับโรคกระดูกอ่อนเสื่อม เนื่องจากเสื่อมสภาพจากการถูกใช้งาน
คอลลาเจน (Collagen) ในร่างกายนั้นจะน้อยลงเมื่ออายุเท่าไหร่?
คำถามยอดฮิตที่มักจะสงสัยกันว่า คอลลาเจนในร่างกายนั้นจะน้อยลง หรือมีการผลิตที่ลดลงเมื่ออายุเท่าไหร่? โดยปกติแล้วนั้นร่างกายจะมีแนวโน้มในการผลิตคอลลาเจนน้อยลงเมื่อมีอายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป หรือในผู้หญิงที่เป็นวัยหมดประจำเดือน คอลลาเจนจะถูกผลิตลดลง และมีการสลายตัวที่เร็วมากขึ้น
วิธีป้องกันไม่ให้คอลลาเจนในร่างกายลดลงทำได้อย่างไรบ้าง?
การป้องกันไม่ให้คอลลาเจนนั้นถูกทำลาย หรือเร่งการทำลายนั้น สามารถปรับเปลี่ยนจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต และพฤติกรรมการรับประทานอาหารบางชนิดได้ โดยวิธีป้องกันไม่ให้ร่างกายนั้นมีคอลลาเจนที่ลดลงทำได้ดังนี้
- ปกป้องผิวจากแสงแดด
รังสี UV ตัวการในการทำร้ายผิว แสงแดดนั้นจะทำให้ปริมาณคอลลาเจนในผิวนั้นน้อยลง ทำให้คอลลาเจนนั้นสลายตัวได้เร็วขึ้น และทำให้การสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิวนั้นมีการทำงานที่ไม่ปกติ ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการต้องตากแดดจัด หรือที่ที่ปล่อยรังสี UV รวมถึงใช้ครีมกันแดดที่มี SPF อย่างน้อย 30 ขึ้นไป อย่างสม่ำเสมอ(เข้าใจ SPF คืออะไร อย่างละเอียดในบทความนี้) - งดการสูบบุหรี่ และการสูดควันจากผู้อื่น
เนื่องจากสารในควันบุหรี่นั้นมีส่วนทำให้คอลลาเจนนั้นถูกทำลาย รวมถึงอีลาสติน ที่เป็นโปรตีนสำคัญต่อความยืดหยุ่นของผิวถูกทำลายเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ผิวเกิดการสูญเสียน้ำ และทำให้ผิวเกิดเป็นริ้วรอยร่องลึก - หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง
เนื่องจากอาหารที่มีน้ำตาลสูง รวมถึงอาหารสำเร็จรูป และปิ้งย่าง จะเพิ่มการทำงานของกระบวนการ Glycation ส่งผลต่อระดับอนุมูลอิสระในร่างกายสูงขึ้น ทำให้การทำงานของคอลลาเจนในร่างกายเสียหาย - เน้นรับประทานอาหารที่มีสารโคเอนไซม์ คิว ที่สูง
ควรรับประทาน วิตามิน E อัลมอนด์ ปลาแมคเคอเรล เนื่องจากช่วยในการยับยั้งการสูญเสียของคอลลาเจนที่เกิดจากสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งเพิ่มการได้รับวิตามินต่าง ๆ จากผลไม้รสเปรี้ยว เพื่อนำมาช่วยกระตุ้นสร้างคอลลาเจน - หลีกเลี่ยงการเผชิญกับการสารต้านอนุมูลอิสระ
หลีกเลี่ยงการเผชิญสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง ฝุ่น ควัน สารเคมี หรือมลพิษต่าง ๆ ทางสิ่งแวดล้อม รวมถึงไม่ควรเครียดจนเกินไป เพราะส่งผลต่อการสูญเสียคอลลาเจนได้เร็วขึ้น
อาหารอะไรบ้างที่ช่วยเพิ่มคอลลาเจน (Collagen) ให้กับร่างกาย?

ควรรับประทานอาหารที่เสริมการสร้างคอลลาเจน มากกว่ารับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยคอลลาเจน เพราะร่างกายไม่สามารถดูดซึมคอลลาเจนได้ ทำได้แค่เปลี่ยนเป็นกรดอะมิโน โดยอาหารที่ส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนมีดังนี้
- อาหารที่มีวิตามิน C เช่น ส้ม สตอว์เบอร์รี่ มันฝรั่ง บรอกโคลี พริกหยวก
- อาหารที่มีไกลซีน เช่น หนังไก่ หนังหมู เนื้อแดง ไก่งวง ถั่วลิสง
- อาหารที่มีโปรลีน เช่น กะหล่ำปลี หน่อไม้ฝรั่ง เห็ด ไข่ขาว ปลา เนื้อสัตว์
- อาหารที่มีสังกะสี เช่น หอยนางรม ถั่ว สัตว์ปีก หมู ผักใบเขียว
- อาหารที่มีทองแดง เช่น ตับ เต้าหู้ หอยนางรม ผักใบเขียว ดาร์กช็อกโกแลต
คอลลาเจน (Collagen) ถูกนำไปทำอะไรได้บ้าง?

ในปัจจุบันนั้นคอลลาเจน ถูกนำไปใช้ในรูปแบบต่าง ๆ โดยหลัก ๆ จะถูกนำไปใช้ทำเป็นชนิดที่รับประทานเพื่อเพิ่มการสร้างคอลลาเจน และแบบชนิดทาบำรุงผิวพรรณ โดยทั้งสองแบบนั้นมีความแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
- คอลลาเจนชนิดรับประทาน
เป็นวิธีที่ง่าย และสะดวก ต่อการเสริมสร้างร่างกาย โดยเป็นคอลลาเจนที่มีขนาดโมเลกุลที่สั้น ร่างกายสามารถดูดซึมได้หากรับประทานเข้าไป แต่ต้องมีการรับประทานอย่างต่อเนื่อง และต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผลลัพธ์
- คอลลาเจนชนิดทาบำรุงผิวพรรณ
เป็นคอลลาเจนที่มีขนาดโมเลกุลที่ใหญ่ เมื่อมีการทาบำรุงผิวพรรณนั้นสามารถดูดซึมเข้าผิวได้แต่น้อยกว่าแบบรับประทาน โดยส่วนใหญ่แล้วนั้นนิยมนำมาทำเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ครีมบำรุงผิว เครื่องสำอาง แผ่นมาสก์หน้า รวมถึงสบู่ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ทำให้ผิวอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี และป้องกันไม่ให้ผิวแห้งกร้าน
คอลลาเจนทำมาจากอะไร?
คอลลาเจนในปัจจุบันนั้นสามารถสกัดได้จากทั้งในสิ่งมีชีวิตและพืช โดยในสิ่งมีชีวิตนั้นจะเป็นโปรตีนที่เป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างผิวหนัง เนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย เส้นเอ็น รวมถึงเส้นเลือด โดยส่วนใหญ่พบมากที่สุดในเนื้อ อย่างเนื้อหมู หนังหมู ขาหมู เป็นต้น ส่วนคอลลาเจนจากพืชนั้น มักจะถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และอาหารเสริม
คอลลาเจนอันตรายหรือมีผลข้างเคียงที่ต้องระวังไหม?
คอลลาเจนนั้นไม่เป็นอันตรายเพราะเป็นสารสังเคราะห์ที่มีความปลอดภัย แต่ต้องมีการใช้อย่างถูกวิธี และเหมาะสม
หากใช้รับประทาน ควรทานไม่เกินวันละ 10 กรัม และไม่ควรติดต่อกันเกิน 5 เดือน
หากเป็นแบบใช้ทา ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน มีการรับรองความปลอดภัยจาก อย. และต้องไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว
สรุป
คอลลาเจน (Collagen) คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่พบมากที่สุดในร่างกายของมนุษย์เรา มีหน้าที่ช่วยในการยึดเกาะโครงสร้างผิวให้มีความยืดหยุ่น และแข็งแรง และเมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ส่งผลให้ผิวแห้งเสีย เกิดเป็นริ้วรอยร่องลึก แต่สามารถใช้คอลลาเจนที่สังเคราะห์ขึ้นเพื่อมาทดแทนได้ โดยมีทั้งรูปแบบที่ใช้รับประทาน และแบบที่ใช้ทาบำรุงผิว เพื่อซ่อมแซมผิวให้มีความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ สุขภาพดี
หากสนใจผลิตครีมบำรุงผิว ครีมทาผิว(ทำความเข้าใจมากขึ้น ครีมทาผิว คืออะไร) ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนที่ได้มาตรฐาน Dermageneration พร้อมให้คำแนะนำและให้คำปรึกษากับผู้ประกอบการที่อยากผลิตครีมที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน บริการแบบครบวงจร พร้อมด้วยทีมนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ สามารถติดต่อได้ทุกช่องทางของโรงงานรับผลิตครีม Dermageneration
แหล่งอ้างอิงข้อมูล
Collagen: What It Is, Types, Function & Benefits.clevelandclinic
https://my.clevelandclinic.org/health/articles/23089-collagen
Medically reviewed by Reema Patel, MPA, PA-C. Written by James McIntosh. Updated on November 29, 2023
https://www.medicalnewstoday.com/articles/262881