WhatisAHA

ทำความรู้จัก AHA คืออะไร ? มีประโยชน์ช่วยผลัดเซลล์ผิวเรื่องอะไรบ้าง

หลาย ๆ คนคงเคยเห็นหรือได้ยินคำว่า AHA เพราะ AHA เป็นสารที่นิยมนำมาใส่ในเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เซรั่มผลัดเซลล์ผิว ครีมที่ให้ความกระจ่างใสแก่ผิว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้า ครีมทาผิว หรือผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม เป็นต้น แต่ไม่รู้เลยว่า AHA คืออะไร ช่วยเรื่องอะไร บทความนี้มีคำตอบให้

AHA คืออะไร ?

AHA คือ

AHA ย่อมาจาก Alpha Hydroxy Acid ( กรดอัลฟาไฮดรอกซี ) เป็นกรดผลไม้ที่ได้จากธรรมชาติ เช่น ผักผลไม้อย่าง แอปเปิล มะนาว องุ่น อ้อย รวมไปถึงนมเปรี้ยว AHA นิยมใช้ในวงการความงามและสกินแคร์ เนื่องจากช่วยกระตุ้นผลัดเซลล์ผิวที่ตายไปแล้ว สร้างผิวใหม่ให้กระจ่างใส กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ยังช่วยลดเรือนริ้วรอยและรอยดำรอยแดงจากสิวอีกด้วย

AHA มีกี่ประเภท ?

ประเภทของ AHA

AHA แบ่งออกเป็นหลายประเภท โดยแต่ละประเภทจะมีแหล่งที่มาและให้ประโยชน์ที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. Citric Acid (กรดซิตริก)

AHA ในกลุ่ม Citric Acid พบในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว มะขาม สับปะรด ส้มโอ มีคุณสมบัติในการช่วยให้ผิวมีความเรียบเนียน มีความกระจ่างใสมากขึ้น

2. Lactic Acid (กรดแลคติก)

AHA ในกลุ่ม Lactic Acid จะเป็นการเกิดจากกระบวนการหมักของแบคทีเรีย พบในผลิตภัณฑ์จำพวกนมเปรี้ยว โยเกิร์ต มีคุณสมบัติในการช่วยผลัดเซลล์ผิว ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ทำให้ผิวเรียบเนียนและชุ่มชื้นขึ้นด้วย

3. Glycolic Acid (กรดไกลโคลิก)

AHA ในกลุ่ม Glycolic Acid ค่อนข้างมาแรงในปัจจุบัน เพราะมีอนุภาคขนาดเล็กทำให้ซึมลงสู่ผิวได้ดี จะช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ กระตุ้นสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวมีความเต่งตึง กระชับ ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น ยังช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินที่เป็นเหตุให้เกิดผิวหมองคล้ำอีกด้วย

4. Tartaric Acid (กรดทาร์ทาริก)

AHA ในกลุ่ม Tartaric Acid พบในองุ่น มะขาม ส้มและกล้วย มีคุณสมบัติในการช่วยดูดซับรังสียูวี เพื่อไม่ให้ชั้นผิวถูกทำลาย

5. Malic Acid (กรดมาลิก)

AHA ในกลุ่ม Malic Acid พบในแอปเปิล มีคุณสมบัติในการช่วยเสริมการทำงานกับ AHA ตัวอื่น ๆ รวมไปถึงช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วอีกด้วย

หลักการทำงานของ AHA

หลักการทำงาน AHA

AHA จะเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วหรือเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกจากชั้นผิวหนังให้เร็วขึ้น ในขณะเดียวกันก็จะกระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิวใหม่มาแทนเซลล์ผิวที่ถูกผลัดออกไป ยังทำการซ่อมแซม กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวมีความกระจ่างใส เรียบเนียน เต่งตึง สุขภาพดี ริ้วรอยค่อย ๆ ลดลง ผิวดูอ่อนเยาว์ลง

AHA ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

1.ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า

โดยธรรมชาติร่างกายของมนุษย์จะมีการผลัดเซลล์ด้วยตัวเองอยู่แล้ว แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้นวงจรการผลัดเซลล์ผิวจะช้าลง AHA จะเข้ามาเป็นตัวช่วยในการเร่งผลัดเซลล์ผิวเก่า และกระตุ้นสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้เกิดขึ้นมาแทนที่เซลล์ผิวที่หลุดออกไป

2. ลดเรือนริ้วรอย

AHA สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ จึงทำให้มีการสร้างเนื้อเยื่อเข้าไปเติมเต็มบริเวณที่เป็นริ้วรอย ดังนั้นริ้วรอยจึงมีความตื้นขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง

3. ช่วยกระชับรูขุมขน ลดความมันของใบหน้า

เมื่อ AHA กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไปแล้ว สิ่งที่เป็นไขมัน สิ่งสกปรก ก็หลุดออกไปด้วย ดังนั้นรูขุมขนจึงมีความสะอาดขึ้น บวกกับการที่ AHA สามารถกระตุ้นสร้างคอลลาเจนได้ ก็ยิ่งทำให้รูขุมขนกระชับขึ้น ความมันบนใบหน้าก็ลดลง ผิวจึงมีความดูสุขภาพดี เรียบเนียนมากยิ่งขึ้น

4. ช่วยแก้ปัญหาสิวอุดตัน รวมทั้งป้องกันการเกิดสิว

ดังที่กล่าวไปข้างต้น AHA จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไป ดังนั้นสิ่งสกปรก ไขมันที่อุดตันตามรูขุมขน
หรือสิวอุดตันต่าง ๆ ก็ถูกผลัดออกไปจากผิวหนังเช่นกัน จึงทำให้มีปัญหาเรื่องสิวอุดตันลดลง

5. เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว

AHA จะเข้าไปช่วยปรับค่า pH ให้เแก่ผิว ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น

6. ลดจุดด่างดำและรอยสิว

เมื่อ AHA ผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไปแล้ว จุดด่างดำ รอยดำ หรือรอยแดง ก็ถูกผลัดออกไปด้วย ทำให้ริ้วรอย
ดูจางลง บวกกับคุณสมบัติของ AHA ที่ช่วยยับยั้งการเกิดเม็ดสีเมลานิน จึงทำให้จุดดำ รอยดำ รอยแดง รอยสิว ลดลงอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย

AHA เหมาะกับใครบ้าง ?

ผู้ที่เหมาะกับAHA

เนื่องจาก AHA มีฤทธิ์เป็นกรด จึงไม่ได้เหมาะกับทุกสภาพผิว ฉะนั้นผู้ใช้จึงต้องพิจารณาเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ AHA เหมาะกับผู้ที่มีปัญหา ดังนี้

  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องผิวแห้ง หรือผิวเริ่มมีความเสื่อมสภาพตามอายุที่เพิ่มขึ้น
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวโดนทำร้ายจากแสงแดด
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ มีรอยดำ ผิวหมองคล้ำ
  • เหมาะกับผู้ที่มีจุดด่างดำจากอายุที่เพิ่มขึ้น ผู้ที่มีฝ้า กระ หรือรอยแผลเป็น
  • เหมาะกับผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง

สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายหรือผิวบอบบาง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการประเมินสภาพผิวก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี AHA

ความแตกต่างกันระหว่าง AHA และ BHA

  • AHA ( Alpha Hydroxy Acid )
    เป็นสารสกัดที่มาจากผลไม้ เช่น กรดซีตริกจากมะนาวหรือส้ม กรดทาร์ทาริกจากองุ่น กรดไกลโคลิกจากอ้อย กรดมาลิกจากแอปเปิล กรดแลคติกจากโยเกิร์ตและนมเปรี้ยว เป็นต้น AHA สามารถละลายในน้ำได้ ทำปฏิกิริยาที่ผิวชั้นนอก ทำให้เหมาะกับผิวธรรมดาไปจนถึงผิวแห้ง มีคุณสมบัติในการช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ปรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอให้มีความขาวขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดเรือนริ้วรอย ใบหน้าเรียบเนียน กระจ่างใสข้นอีกด้วย
  • BHA ( Beta Hydroxy Acid )
    หลายคนอาจรู้จักในชื่อ กรดซาลิไซลิก ( Salicylic Acid ) เป็นกรดที่สกัดมาจากเปลือกของต้น Willow หรือต้นหลิวจีน มีความแตกต่างกับ AHA คือ สามารถละลายในไขมันได้ ทำให้สามารถซึมลึกลงไปจนถึงต่อมไขมัน ทำความสะอาด รูขุมขนได้ชั้นลึก เหมาะกับผู้ที่มีผิวมัน และจะใช้รักษาสิวเป็นหลัก

ทางเราจึงทำการสรุปเป็นตารางให้เห็นได้ชัดเจนว่า AHA และ BHA แตกต่างกันอย่างไร

AHABHA
Alpha Hydroxy AcidAlpha Hydroxy Acid
สกัดมาจากผลไม้ เช่น ส้ม มะนาว แอปเปิล รวมไปถึงโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวสกัดจากเปลือกไม้ต้น Willow หรือต้นหลิวจีน
ละลายในน้ำละลายในไขมัน
เหมาะกับผิวธรรมดา ผิวแห้ง และผิวแพ้ง่ายเหมาะกับผิวมัน
ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วช่วยทำความสะอาดผิว
ปรับผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นเน้นรักษาสิว และลดรูขุมขน

AHA ใช้คู่กับตัวไหนบ้าง ?

AHA ใช้คู่กับอะไร

AHA กับ Ceramides

AHA จะทำการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วภายนอกออกไป ทำให้ผิวเสียน้ำมันตามธรรมชาติ การใช้เซราไมด์
ที่เป็นไขมันดีมีความสำคัญต่อผิวของเรา ก็จะช่วยให้ผิวกลับมาดูชุ่มชื้น มีความอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดีอีกด้วย

AHA กับ Retinol

AHA ใช้คู่กับ Retinol ได้ โดยจะช่วยส่งเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกัน ทั้งเรื่องลดริ้วรอย ฝ้า จุดด่างดำ ยังเป็น
ตัวช่วยให้สร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ดีขึ้นอีกด้วย และยังช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไป ทำให้ผิวมีความ
กระจ่างใสขึ้น

AHA ห้ามใช้คู่กับตัวไหนบ้าง ?

  1. AHA กับ BHA
    ทั้งสองตัวสามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวได้เหมือนกัน ยิ่งใช้ร่วมกันจะทำให้ เซลล์ผิวแห้ง สูญเสียน้ำมากขึ้น ควรเลือกใช้ตัวใดตัวหนึ่งไปเลย
  2. AHA กับ วิตามินซี
    หากใช้คู่กัน จะทำให้ค่าความเป็นกรดสูงเกินไป ผิวเสียสมดุล AHA จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของวิตามินซีลดลง ออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่

AHA ปลอดภัยไหม ?

AHA ปลอดภัยไหม

โดยทั่วไปแล้ว ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA จะมีความเข้มข้นไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว จึงมีความปลอดภัยสูง แต่หากมีความจำเป็นต้องใช้ AHA ที่มีความเข้มข้นเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ควรเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำผลิตภัณฑ์ วิธีใช้ เพื่อให้ใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างปลอดภัยและได้ประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตรก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี AHA ความเข้มข้นไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ได้ ที่สำคัญไม่ควรบริโภค AHA ในรูปแบบอื่น เช่น การรับประทานกรดมาลิก เนื่องจากยังไม่มีการรับรองความปลอดภัยในแม่และเด็กในครรภ์จากกรดชนิดนี้

ทั้งนี้ทั้งนั้น AHA อาจเกิดผลข้างเคียงได้ โดยเฉพาะผู้ที่ผิวแพ้ง่าย เช่น มีการระคายเคือง ผิวลอง บวมแดง ผื่นขึ้น เป็นต้น ดังนั้นขณะออกแดดควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้ผิวโดนทำร้ายจากแสงอาทิตย์ และเมื่อมีอาการแพ้หนักขึ้น ควรเข้าปรึกษาแพทย์ในทันที

สรุป

AHA เป็นสารสกัดจากผลไม้ตามธรรมชาติ เช่น ส้ม มะนาว องุ่น อ้อย รวมไปถึงนมเปรี้ยวและโยเกิร์ต มีคุณสมบัติในการช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว พร้อมสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่มีความแข็งแรง กระจ่างใสกว่าเดิม และยังกระตุ้นสร้างคอลลาเจนได้อีกด้วย ทำให้ลดเรือนริ้วรอยเล็ก ๆ หรือรอยดำ รอยแดงได้ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มี AHA มีความปลอดภัยสูง หากมีความเข้มข้นในปริมาณที่เหมาะสมที่ไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์