เครื่องสำอางออร์แกนิก คืออะไร? ไขทุกข้อสงสัยก่อนตัดสินใจทำแบรนด์

หาคำตอบ! เครื่องสำอางออร์แกนิก คืออะไร? ในฐานะผู้ประกอบการในยุคที่ผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพและความยั่งยืนมากขึ้น “เครื่องสำอางออร์แกนิก” ไม่ใช่แค่เทรนด์ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปอีกต่อไป แต่เป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าจับตาอย่างยิ่ง หลายคนอาจสงสัยว่าแท้จริงแล้วเครื่องสำอางกลุ่มนี้คืออะไร มีข้อดี ข้อจำกัดอย่างไร

และที่สำคัญที่สุดถ้าคิดจะปั้นแบรนด์ Organic Cosmetics เป็นของตัวเอง ต้องเตรียมตัวและเข้าใจอะไรบ้าง? บทความนี้จะพาทุกคนไปไขทุกข้อสงสัย เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนก้าวเข้าสู่ตลาดความงามสีเขียวอย่างมั่นใจ

รู้จัก! เครื่องสำอางออร์แกนิก คืออะไร?

เครื่องสำอางออร์แกนิก (Organic Cosmetics) คือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ไม่ว่าจะเป็นครีม โลชั่น หรือเครื่องสำอางอื่น ๆ ที่ผลิตจากส่วนผสมธรรมชาติเป็นหลัก โดยส่วนผสมเหล่านี้มักมาจากพืช เช่น สมุนไพร ดอกไม้ และน้ำมันหอมระเหย นอกจากนี้ยังอาจมีส่วนผสมที่ได้จากสัตว์อย่างขี้ผึ้ง หรือแร่ธาตุต่าง ๆ ด้วย ส่วนผสมธรรมชาติเหล่านี้จะถูกนำมาผสมกับสารอื่น ๆ ที่จำเป็น เช่น สารให้ความชุ่มชื้น สารกันบูด หรือสารลดแรงตึงผิว เพื่อให้ได้เครื่องสำอางที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เครื่องสำอางออร์แกนิกเหมาะกับใครบ้าง

จริง ๆ แล้ว เครื่องสำอางออร์แกนิก หรือเครื่องสำอางจากธรรมชาติ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับทุกคน ทุกสภาพผิวเลย ไม่ว่าคุณจะมีผิวแบบไหน ก็สามารถใช้เครื่องสำอางกลุ่มนี้ได้

แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ เครื่องสำอางออร์แกนิกจะเหมาะมาก ๆ สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย เพราะส่วนผสมจากธรรมชาติที่ปราศจากสารเคมีรุนแรง จะช่วยลดโอกาสการเกิดอาการระคายเคืองและอาการแพ้ได้ดีกว่าเครื่องสำอางทั่วไป

ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก VS ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ต่างกันอย่างไร

ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกคือผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองอย่างเข้มงวดว่าไม่มีสารเคมีเจือปน ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติอาจมีส่วนผสมจากธรรมชาติ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีสารเคมีในกระบวนการผลิตหรือไม่ผ่านการรับรองที่เข้มงวดเหมือนผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก

เครื่องสำอางออร์แกนิกตามมาตรฐาน JOCA ต้องเป็นอย่างไร?

สำหรับเครื่องสำอางออร์แกนิก ตามมาตรฐานของ JOCA (Japan Organic Cosmetics Association) มีข้อกำหนดที่เข้มงวดมาก ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นมาจากธรรมชาติอย่างแท้จริงและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

• ห้ามมีส่วนผสมจากน้ำมัน
  ผลิตภัณฑ์ต้องไม่มีน้ำมันหรือส่วนผสมที่สกัดจากน้ำมันเลย
• ต้องย่อยสลายได้ตามธรรมชาติและไม่ทำลายระบบนิเวศ
  ส่วนผสมทุกอย่างควรย่อยสลายได้ง่ายในธรรมชาติ และต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ดิน พืช หรือแร่ธาตุ
• ห้ามใช้ส่วนผสมที่ถูกดัดแปลงหรือสร้างขึ้นมาใหม่
  ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสมที่เคยมีอยู่ในธรรมชาติแต่ถูกดัดแปลง หรือส่วนผสมที่ไม่เคยมีอยู่ในธรรมชาติมาก่อน ก็ห้ามนำมาใช้
• ใช้พืชจากธรรมชาติเท่านั้น
  วัตถุดิบที่เป็นพืชต้องมาจากพืชที่เติบโตเองตามธรรมชาติ หรือปลูกโดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยเคมี ไม่ว่าจะมีการรับรองหรือไม่ก็ตาม
• ห้ามใช้กระบวนการที่รุนแรง
  ส่วนผสมต้องไม่ถูกทำให้แตกตัวด้วยแรงดันหรืออุณหภูมิสูง ๆ และห้ามใช้ส่วนผสมสังเคราะห์ แม้จะสกัดมาจากพืชก็ตาม
• ตัวทำละลายต้องมาจากธรรมชาติ
  หากต้องมีการสกัดสารจากพืช ตัวทำละลายที่ใช้ก็ต้องเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติเท่านั้น เช่น น้ำ น้ำมันพืช หรือกลีเซอรีน ห้ามใช้น้ำมันหรือส่วนผสมที่ได้จากน้ำมันเด็ดขาด
• ผลิตภัณฑ์สุดท้ายต้องเป็นธรรมชาติ 100%
  สินค้าที่ผลิตเสร็จสมบูรณ์แล้วต้องมาจากส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% เท่านั้น
• การผสมกับน้ำต้องใช้ส่วนผสมธรรมชาติเท่านั้น
  การทำให้ส่วนผสมเข้ากับน้ำ (Emulsification) ต้องทำโดยใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเท่านั้น และห้ามใช้สารลดแรงตึงผิวสังเคราะห์
• สารฆ่าเชื้อ/กันเสียต้องมาจากธรรมชาติ
  การให้คุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคหรือกันบูดเสีย ต้องใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเท่านั้นและ ห้ามใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ
• สารทำความสะอาดต้องมาจากธรรมชาติ
  สารที่ใช้ในการทำความสะอาดต้องผลิตโดยใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเท่านั้น และห้ามใช้สารลดแรงตึงผิวสังเคราะห์
• วิธีการสกัด/แปรรูปต้องไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์
  ไม่ว่าจะเป็นการสกัด, ปรุงแต่ง, ฟอกขาว, หรือสกัดสารจากพืช ก็ห้ามใช้ตัวทำละลายสังเคราะห์
• ห้ามมีส่วนผสมตกค้างในสารสกัดจากพืช
  ต้องไม่มีส่วนผสมอื่น ๆ หลงเหลืออยู่ในสารสกัดจากพืชเลย ยกเว้นว่าส่วนผสมนั้นจะเป็นสารจากธรรมชาติโดยสมบูรณ์

ข้อดีของเครื่องสำอางOrganic มีอะไรบ้าง

เครื่องสำอางออร์แกนิกกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่เพราะดีต่อผิวเท่านั้น แต่ยังดีต่อโลกของเราด้วย มาดูกันว่าข้อดีหลัก ๆ ของorganic cosmetics มีอะไรบ้าง

1. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เครื่องสำอางออร์แกนิกดีต่อโลกของเรามากกว่าเครื่องสำอางทั่วไปมาก เพราะส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติจะไม่ทิ้งสารเคมีอันตรายที่อาจเป็นพิษต่อสัตว์ พืช หรือแม้แต่ปนเปื้อนลงดินและส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของเรา นอกจากนี้ ส่วนผสมบางอย่างในเครื่องสำอางเคมี เช่น อะลูมิเนียมหรือตะกั่ว ที่มาจากการทำเหมือง ก็ยังก่อให้เกิดมลพิษกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย การเลือกใช้เครื่องสำอางออร์แกนิกจึงช่วยลดผลกระทบเหล่านี้ได้เยอะ

2. อุดมไปด้วยสารที่มีประโยชน์

organic cosmetics เต็มไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่มีประโยชน์มากมาย เช่น น้ำมันโจโจบา น้ำมันอาร์แกน หรือสารสกัดจากผลไม้อย่างน้ำแอปเปิลและน้ำมะนาว ซึ่งนอกจากจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแล้ว ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยฟื้นฟู บำรุง และช่วยผลัดเซลล์ผิวได้อย่างอ่อนโยน แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินและสารประกอบสำคัญต่าง ๆ เช่น วิตามินซี วิตามินดี และวิตามินอี ที่ช่วยให้ร่างกายของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย

3. ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง

เรื่องความปลอดภัยคือหัวใจสำคัญของเครื่องสำอางออร์แกนิกเลย โรงงานที่ผลิตเครื่องสำอางออร์แกนิกที่ได้มาตรฐานจะมีการตรวจสอบส่วนผสมอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ออกมาจะปลอดภัยกับผู้ใช้มากที่สุด เพราะส่วนผสมจากธรรมชาติเหล่านี้ปราศจากสารเคมีรุนแรงที่มักก่อให้เกิดการระคายเคืองหรืออาการแพ้ต่าง ๆ ซึ่งต่างจากส่วนผสมเคมีบางชนิด เช่น พาราเบน ซัลเฟต หรือสีสังเคราะห์ ที่อาจทำให้เกิดผื่นแพ้ ผลข้างเคียง หรือแม้กระทั่งส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมได้ในระยะยาว

มีข้อจำกัดอะไรบ้าง

แม้เครื่องสำอางออร์แกนิกจะได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีจุดเด่นเรื่องความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ก็มีข้อจำกัดบางอย่างที่ควรพิจารณา ดังนี้

1. ประสิทธิภาพและความเสถียรของผลิตภัณฑ์

วัตถุดิบบางชนิดที่มาจากธรรมชาติอาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่ชัดเจนเท่ากับวัตถุดิบที่ผ่านกระบวนการทางเคมีที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะจุด นอกจากนี้ สีธรรมชาติอาจเปลี่ยนไปเมื่อโดนความร้อนหรือออกซิเจน ทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่คงที่ และอาจมีอายุการใช้งานสั้นกว่าเครื่องสำอางที่ใช้สารเคมีช่วยรักษาสภาพ

2. ต้นทุนสูงกว่า

เครื่องสำอางออร์แกนิกจะมีต้นทุนที่สูงกว่าเครื่องสำอางทั่วไปพอสมควร นั่นเป็นเพราะต้นทุนวัตถุดิบธรรมชาติที่มีราคาสูงกว่า และกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนกว่าปกติ นอกจากนี้ การขอรับรองมาตรฐานออร์แกนิกต่าง ๆ ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วย ทำให้ราคาขายสูงขึ้นตามไปด้วย

3. อายุการเก็บรักษาสั้น

เนื่องจากเครื่องสำอางออร์แกนิกใช้สารกันเสียจากธรรมชาติ หรือบางครั้งก็ไม่มีสารกันเสียเลย ทำให้มีอายุการใช้งานสั้นกว่าเครื่องสำอางทั่วไปมาก และมีความเสี่ยงที่จะปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ได้ง่ายขึ้น หากเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ไม่ดีพอ

สรุป

เครื่องสำอางออร์แกนิกเป็นโอกาสทางธุรกิจที่มีศักยภาพสูงในยุคที่ผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องต้นทุนสูงและอายุการเก็บรักษาสั้น แต่ข้อดีด้านความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทำให้ตลาดนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง การเข้าใจมาตรฐาน JOCA และข้อกำหนดเข้มงวดต่าง ๆ จึงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างแบรนด์เครื่องสำอางออร์แกนิกที่ประสบความสำเร็จ

เดอร์มาเจเนอเรชั่น โรงงานผลิตครีมและเครื่องสำอาง พร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุนผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ตลาดเครื่องสำอางออร์แกนิก ด้วยความเชี่ยวชาญในการผลิตที่ตรงตามมาตรฐานสากล และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดสมัยใหม่