โรงงานผลิตเซรั่ม รับผลิตเซรั่มทุกสูตร ขั้นต่ำน้อย ผลิตไว ได้มาตรฐาน GMP

เริ่มต้นสร้างแบรนด์เซรั่มเป็นของตัวเองได้ง่าย ๆ เข้ามาใช้บริการได้ที่โรงงาน Dermageneration โรงงานผลิตเซรั่ม ที่จะช่วยผลิตเซรั่มให้ผู้ประกอบการแบบครบวงจร มั่นใจได้ในระบบการผลิตด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญ และทีมนักวิทยาศาสตร์มากประสบการณ์ พร้อมให้คำแนะนำทางการตลาดได้อีกด้วย มาดูกันว่าบริการโรงงานรับผลิตเซรั่มมีอะไรบ้าง การใช้บริการที่โรงงานผลิตเซรั่มดีอย่างไร พร้อมขั้นตอนการผลิตเซรั่ม รวมถึงสารสกัดที่มาแรงสำหรับเซรั่มที่น่าสนใจ จะมีอะไรบ้าง

โรงงานผลิตเซรั่มแบบ One-Stop Service สร้างแบรนด์ยุคใหม่อย่างครบวงจร

Dermageneration เป็นโรงงานผลิตเซรั่มแบบ One-Stop Service เราพร้อมช่วยผู้ประกอบการให้ความฝันการสร้างแบรนด์เซรั่มของประกอบการเป็นเรื่องง่าย ให้บริการเกี่ยวกับการผลิตอย่างครบครัน ตั้งแต่การคัดเลือกสารสกัด แนะนำส่วนผสมที่เหมาะสม เลือกเนื้อเซรั่มที่ตอบโจทย์ และให้คำปรึกษาทางด้านการผลิตตั้งแต่เริ่มต้นการผลิต ตลอดจนการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์เพื่อผลลัพธ์ที่ตรงใจ มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ผ่านการรับรองจากมาตรฐานสากล และที่นี่ยังมีบริการให้คำแนะนำทางด้านการตลาด ตั้งแต่การออกแบบโลโก้และฉลาก เลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะกับแบรนด์ และการดำเนินการเอกสารสำคัญเพื่อการค้า

ใช้บริการโรงงานผลิตเซรั่ม ดีอย่างไร?

Dermageneration เราเป็นโรงงานผลิตเซรั่มที่คัดสรรเฉพาะสารสกัดและส่วนผสมที่มีคุณภาพ ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่นำเทรนด์ ตอบโจทย์กับปัญหาผิวที่แตกต่าง เจาะตลาดกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายตามความต้องการของแบรนด์ ดำเนินการผลิตโดยทีมนักวิทยาศาสตร์มากประสบการณ์

และเราพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านการตลาดจากทีมผู้เชี่ยวชาญ เข้ามาใช้บริการที่นี่ มีข้อดีที่การลดต้นทุน ประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องจัดตั้งโรงงานเป็นของตัวเอง ลดการใช้ทรัพยากรบุคคลเพราะเรามีทีมผู้เชี่ยวชาญไว้คอยให้บริการอย่างครบครัน และประหยัดเวลาในการผลิตอีกด้วย

โรงงานผลิตเซรั่ม กับมาตรฐานระดับสากลที่ต้องรู้

เลือกใช้บริการโรงงานผลิตเซรั่มต้องรู้! ที่ Dermageneration เราให้ความสำคัญกับมาตรฐานการผลิต ตลอดจนการพัฒนาสูตร เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เซรั่มของลูกค้าได้มาตรฐาน ตรงตามมาตรฐานจากทั้งไทยและสากล โดยมาตรฐานที่ทางโรงงานของเราผ่านการรองรับ มีดังนี้

• ISO (International Standards Organization) คือมาตรฐานการรองรับคุณภาพว่าโรงงานผลิตเซรั่มเป็นไปตามมาตรฐาน ISO ที่ยอมรับจากทั่วโลก โดยทางโรงงานผ่านมาตรฐาน ISO 22716 : 2007 และ ISO 9001 : 2015

• GMP (Good Manufacturing Practice) คือมาตรฐานเกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตเซรั่มที่เป็นไปตามข้อกำหนด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้สถานที่จัดตั้งโรงงาน การเลือกวัตถุดิบและสารสกัด การควบคุมการผลิตให้มีประสิทธิภาพ การจัดเก็บ และการจัดส่งสินค้า

• ฮาลาล (HALAL) คือมาตรฐานการผลิตเซรั่มที่ผ่านการรองรับจากทางคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ให้การยอมรับว่าทางโรงงานได้ผลิตสินค้าตรงตามรูปแบบที่หลักศาสนาอิสลามกำหนด

• เครื่องหมาย อย. (FDA) คือมาราตรฐานการผลิตเซรั่มที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

• อุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) คือมาตรฐานการผลิตเซรั่มที่ผ่านการรองรับจากกระทรวงอุตสาหกรรม ว่าการผลิตเซรั่มของทางโรงงานได้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวเป็นหลัก

รวม 6 ขั้นตอนการผลิตเซรั่ม สร้างแบรนด์ไม่ได้ยากอย่างที่คิด

สำหรับแบรนด์ที่อยากมีผลิตภัณฑ์เซรั่มเป็นของตัวเอง แต่คิดว่าการควบคุมการผลิตเป็นเรื่องไกลตัว ทาง Dermageneration จะมาแนะนำขั้นตอนการผลิตเซรั่มที่ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ใช้บริการกับทางโรงงานผลิตเซรั่ม โดยมีขั้นตอนการผลิตดังนี้

1. แจ้งรายละเอียดผลิตภัณฑ์

โดยทางแบรนด์จะต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับเซรั่มที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสรรพคุณ ส่วนผสมหลัก ส่วนผสมอื่น ๆ กลิ่น สี และเนื้อสัมผัสของตัวเซรั่มที่ต้องการ

2. รับใบเสนอราคาจากทางโรงงาน

โดยทางโรงงานจะออกใบเสนอราคาเกี่ยวกับการใช้บริการผลิตเซรั่มให้กับทางแบรนด์ และทางแบรนด์จะต้องจ่ายค่ามัดจำก่อนผลิตเป็นจำนวนเงิน 50% จากที่ระบุไว้ในใบเสนอราคา

3. ออกแบบโลโก้และฉลากสินค้า

โดยทางโรงงานจะให้ความช่วยเหลือด้านการออกแบบโลโก้และฉลากสินค้าให้ทางแบรนด์ได้เลือก ใช้เวลาในการออกแบบประมาณ 3-5 วัน หลังจากแบรนด์เลือกโลโก้และฉลากที่ถูกใจแล้ว ทางโรงงานจะดำเนินการขอเอกสารสำหรับการขายสินค้าและจดแจ้งอย. ให้ด้วย

4. เริ่มผลิตเซรั่ม

โดยทางโรงงานจะเริ่มผลิตเซรั่มทันทีหลังดำเนินการด้านเอกสารเรียบร้อย ใช้เวลาผลิตสินค้าประมาณ 30 วัน โดยในระยะเวลาการผลิต ทางแบรนด์สามารถขอปรับสูตรได้สูงสุด 3 ครั้ง

5. ชำระค่าผลิตเซรั่ม

หลังจากที่ผลิตสินค้าเรียบร้อยแล้ว ทางแบรนด์ต้องชำระค่าผลิตสินค้าอีก 50% จากในใบเสนอราคา

6. รับสินค้าจากทางโรงงาน

โดยหลังจากที่ชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ทางโรงงานจะดำเนินการจัดส่งเซรั่มให้กับทางแบรนด์ตามที่อยู่ วันและเวลาจัดส่งที่ทางแบรนด์ได้แจ้งไว้ และมีระยะเวลาจัดส่งอยู่ที่ประมาณ 3-5 วัน

เลือกโรงงานผลิตเซรั่มอย่างไรให้ตอบโจทย์ความต้องการของแบรนด์

ได้รู้เกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตเซรั่มกันไปแล้ว จะเห็นได้ว่าทางแบรนด์ต้องหวังพึ่งความเชี่ยวชาญกับทางโรงงานอย่างมากเลยทีเดียว เพื่อให้เซรั่มที่ผลิตออกมามีคุณสมบัติตรงตามความต้องการของทางแบรนด์ และการลงทุนจ้างโรงงานแต่ละครั้งก็ใช้เงินไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว มาดูกันว่าแบรนด์ควรมองหาอะไร เมื่อเลือกใช้บริการโรงงานผลิตเซรั่ม ดังนี้

1. เลือกโรงงานผลิตเซรั่มที่ได้คุณภาพ สะอาด และมีขั้นตอนการผลิตที่ปลอดภัย
2. เลือกโรงงานผลิตเซรั่มที่มีข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต มีตัวโรงงานจริงตามที่อยู่ที่ระบุไว้ และสามารถตรวจสอบประวัติของตัวโรงงาน ไปจนถึงรีวิวจากลูกค้าก่อนหน้าได้
3. เลือกโรงงานผลิตเซรั่มที่มีทีมนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญคอยควบคุมการผลิต และมีการวิจัยเพื่อคิดค้นสูตรใหม่ ๆ อยู่ตลอด
4. เลือกโรงงานผลิตเซรั่มแบบ One-Stop Service ให้บริการอย่างครบวงจร ตั้งแต่การผลิตเซรั่ม การพัฒนาสูตร การเลือกบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนการทำการตลาดที่เกี่ยวข้อง
5. เลือกโรงงานผลิตเซรั่มที่ผ่านการรับรองมาตรฐานทั้งไทยและสากล ไม่ว่าจะเป็น ISO, GMP, HALAL, FDA และ Green Industry เป็นต้น
6. เลือกโรงงานผลิตเซรั่มที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ด้านการผลิตเซรั่มให้กับแบรนด์อื่นๆ พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการผลิตเซรั่มในทุกขั้นตอน

โรงงานผลิตเซรั่ม กับสารสกัดที่กำลังมากแรง และสรรพคุณที่แตกต่าง

ทางโรงงานผลิตเซรั่ม Dermageneration ของเรามีสารสกัดและส่วนผสมที่น่าสนใจ กำลังเป็นส่วนผสมที่มาแรงในปีนี้เลยทีเดียว โดยสารสกัดแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันออกไป โดยมีสารสกัดที่น่าสนใจ ดังนี้

• Antioxidant

ทางโรงงานผลิตเซรั่มจากสารสกัด Antioxidant เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยในการชะลอการเสื่อมสภาพของผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปกป้องผิวจากความร้อน แสงแดด และมลภาวะที่ต้องพบเจอในชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งป้องกันการสูญเสียคอลลาเจนใต้ชั้นผิว คงความเยาว์วัยให้กับผิวได้อีกด้วย โดยสารต้านอนุมูลอิสระพบได้ในวิตามินบี 3 วิตามินซี วิตามินอี เป็นต้น

• Niacinamide

ทางโรงงานผลิตเซรั่มจากสารสกัด Niacinamide หรือวิตามินบี 3 ที่มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลความมันบนใบหน้า ทำให้ความมันส่วนเกินบนใบหน้าลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีสรรพคุณช่วยลดสิว ลดริ้วรอยและจุดด่างดำจากสิวได้อย่างดี เห็นผลผิวหน้าชุ่มชื้น เรียบเนียน และสีผิวดูสม่ำเสมออย่างเห็นได้ชัด

• AHA (Alpha Hydroxy Acid)

ทางโรงงานผลิตเซรั่มจากสารสกัด AHA (Alpha Hydroxy Acid) ทำหน้าที่เป็นกรดที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพ กระตุ้นให้มีการผลัดเซลล์ผิวใหม่ เผยผิวหน้ากระจ่างใสและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งลดเลือนริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบ AHA ได้ในกรดจากผลไม้ ไม่ว่าจะเป็น กรดกลูคอนิก กรดซิตริก กรดแลกติก เป็นต้น

• BHA (Beta Hydroxy Acid)

ทางโรงงานผลิตเซรั่มจากสารสกัด BHA (Beta Hydroxy Acid) คือสารที่ออกฤทธิ์เป็นกรด ทำหน้าที่ทำความสะอาดผิวหน้าและรูขุมขนได้อย่างดี ลดการอุดตันที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว โดยส่วนมากแล้วสามารถพบ BHA ได้ในกรดซาลิไซลิก โดยแนะนำใช้ในปริมาณน้อย และเหมาะกับกลุ่มลูกค้าหลักเป็นคนที่มีผิวมัน หรือกลุ่มคนที่มีปัญหาสิว

• Retinol

ทางโรงงานผลิตเซรั่มจากสารสกัด Retinol หรือก็คือสารสกัดที่มีส่วนประกอบหลักเป็นวิตามินเอ มีส่วนช่วยเร่งกระบวนการสร้างเซลล์บนใบหน้าให้เร็วมากยิ่งขึ้น และยังมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูริ้วรอยต่างบนใบหน้าให้ดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พร้อมทั้งทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวเพื่อให้ผิวหน้าดูกระชับมากยิ่งขึ้น โดยแนะนำให้ใช้สำหรับทากลางคืนเท่านั้น เพื่อให้ผิวหน้าล็อกความชุ่มชื้นไว้ได้

เทรนด์การผลิตเซรั่มให้ตอบโจทย์สภาพผิว

เทรนด์การผลิตเซรั่มในปัจจุบันมุ่งเน้นไปที่การตอบสนองความต้องการเฉพาะเจาะจงของแต่ละกลุ่มวัยมากขึ้น โดยอาศัยความรู้ทางวิทยาศาสตร์และการตลาดที่เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเองได้มากขึ้น ดังนี้

• วัยรุ่น
  จะให้ความสำคัญเรื่องการรักษาสิว เพราะมักจะมีสิว รอยแดง และส่วนมากจะมีสภาพผิวที่มัน ซึ่งเซรั่มส่วนใหญ่ที่กลุ่มวัยรุ่นจะเลือกใช้ก็จะมีส่วนผสมหลักเป็น ซาลิไซลิกแอซิด ไนอะซินาไมด์ น้ำมันทีทรี เพราะสามารถควบคุมความมัน ลดการอักเสบ ป้องกันการเกิดสิวใหม่ได้

• วัยผู้ใหญ่
  อายุ 25 ปีขึ้นไป จะเริ่มให้ความใส่ใจกับปัญหาริ้วรอยแรกเริ่ม และใช้เรตินอลตามเทรนด์การตลาดในปัจจุับน โดยปัญหาหลัก ๆ ที่กลุ่มนี้มักจะเจอ นั่นก็คือริ้วรอยแรกเริ่ม ผิวหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง ซึ่งเซรั่มที่เลือกก็จะมีส่วนผสมหลัก คือ เรตินอล วิตามินซี เปปไทด์ เพราะสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยปและรับผิวให้กระจ่างใสขึ้นได้

• วัยกลางคน
  อายุ 30 ปีขึ้นไป จะใส่ใจเรื่องความชุ่มชื้นของผิวเป็นพิเศษ เพราะมักจะมีปัญหาริ้วรอยแห่งวัย ริ้วรอยลึก และผิวหย่อนคล้อย จึงต้องเลือกเซรั่มที่มีส่วนผสมหลักเป็นไฮยาลูโรนิกแอซิด เซราไมด์ กรดไฮดรอกซี เพราะสามารถเพิ่มความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย ฟื้นฟูผิวได้

ผลิตเซรั่มที่โรงงานผลิตเซรั่ม ใช้เวลาเท่าไร

โรงงานผลิตเซรั่ม Dermageneration ใช้เวลาในการผลิตโดยแบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลา ดังนี้

1. ขั้นตอนการเตรียมการผลิต ใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน เพื่อให้ทางแบรนด์แจ้งรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ ทางโรงงานจะคัดเลือกสูตร แนะนำบรรจุภัณฑ์ ออกแบบโลโก้และฉลาก ตลอดจนการจดแจ้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
2. ขั้นตอนการผลิต ใช้เวลาประมาณ 30 วัน โดยทางโรงงานจะผลิตสินค้าตามความต้องการของแบรนด์ ตลอดจนปรับสูตรตามที่แบรนด์ต้องการ (3 ครั้ง) และบรรจุเซรั่มลงในบรรจุภัณฑ์
3. ขั้นตอนการจัดส่ง ใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน โดยทางโรงงานจะจัดส่งเซรั่มให้กับแบรนด์ตามที่อยู่ วัน และเวลาที่ทางแบรนด์ได้แจ้งไว้

ใช้บริการโรงงานผลิตเซรั่มแบบครบวงจร เป็นตัวช่วยสร้างแบรนด์เซรั่มที่แสนง่ายดาย โดยให้บริการการผลิตจากทีมนักวิทยาศาสตร์มากประสบการณ์ ตลอดจนการให้คำแนะนำด้านการตลาดจากทีมผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย เพียงเท่านี้ การสร้างแบรนด์ก็ไม่ใช่เรื่องเกินฝัน เลือกใช้บริการโรงงานผลิตเซรั่มเพื่อลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก แล้วเริ่มสร้างแบรนด์เซรั่มที่ต้องการได้เลย!

แนะนำ โรงงานDermageneration บริการรับผลิตเซรั่มที่ให้บริการแบบ One-Stop Service พร้อมร่วมออกแบบการสร้างแบรนด์กับทีมงานแบรนด์อย่างครบวงจร วางใจได้ในส่วนของการผลิตที่ดำเนินการโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ที่มีประสบการณ์การทำแบรนด์มาแล้วมากมาย และมั่นใจในทีมการตลาดมากฝีมือที่ให้บริการออกแบบโลโก้และฉลาก ตอนจนการดำเนินงานเอกสารที่จำเป็นสำหรับแบรนด์ของคุณ